ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและวิตามิน ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน บำรุงร่างกาย และระบบภายใน ถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับคนรักสุขภาพ ในโลกยุคปัจจุบันที่เต็มไปด้วยมลภาวะ การดูแลสุขภาพ เป็นเรื่องที่ควรต้องใส่ใจดูแลเป็นพิเศษ เพราะปัญหาเหล่านี้ล้วนส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกาย การออกกำลังกาย และการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์อาจไม่เพียงพอ จำเป็นต้องมีการเสริมคุณค่าทางโภชนาการด้วยผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ตัวช่วยดีๆ ที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร vs อาหารเสริม ต่างกันยังไง?
หลายคนจะต้องคุ้นเคยกับคำว่า “ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร” และ “อาหารเสริม” ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว สองสิ่งนี้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพื่อให้ผู้อ่านมีความเข้าใจที่กระจ่างขึ้น และสามารถเลือกรับประทานได้อย่างถูกต้อง และเหมาะสม ในเนื้อหาส่วนนี้จะพาไปรู้จักแบบเจาะลึกกับสองคำนี้ว่ามีความเหมือน และแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับรับประทานนอกเหนือจากอาหารในมื้อหลักแต่ละมื้อ โดยมุ่งเน้นไปที่การบำรุง ไม่ใช่เพื่อการรักษาแต่อย่างใด มักมีส่วนผสมหลักมาจากพืช หรือส่วนประกอบต่างๆ ของสัตว์ ที่ร่างกายของมนุษย์ไม่สามารถผลิตได้นั่นเอง อีกทั้งผลิตภัณฑ์ในลักษณะนี้จะมีรูปแบบที่หลากหลาย ทั้งแบบเม็ด ผง หรือแคปซูล ซึ่งง่ายต่อการรับประทานและสะดวกสบายในการพกพาอีกด้วย
อาหารเสริม
ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมจะไม่ได้เกิดจากการสังเคราะห์แต่อย่างใด คุณสามารถที่จะหาได้ตามธรรมชาติ และเป็นสิ่งที่ร่างกายขาดไม่ได้ ต้องได้รับเสริมเพิ่มเติมจากมื้ออาหาร เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสำหรับเด็กทารก หรือเด็กเล็ก เพื่อให้ร่างกายของเด็กได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน เป็นต้น
1. ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารช่วยบำรุงสุขภาพพื้นฐาน
ยิ่งอายุมากขึ้น ร่างกายก็จะค่อยๆ เสื่อมสภาพ หากไม่มีการดูแลที่ดีก็จะยิ่งทำให้ร่างกายทรุดโทรม ซึ่งการสรรหาวิตามิน และเลือกรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อบำรุงสุขภาพ จึงกลายเป็นคำตอบของผู้คนในยุคนี้ ซึ่งวิตามินที่มีส่วนช่วยในการบำรุงร่างกายแบบองค์รวม มีดังต่อไปนี้
ไฟโตนิวเทรียนท์ เสริมร่างกายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ไฟโตนิวเทรียนท์เป็นสารอาหารที่พบได้เฉพาะพืช มีส่วนช่วยในเรื่องเสริมประสิทธิภาพการทำงานของระบบร่างกาย เป็นกลไกหลักในการลดโอกาสในการเกิดมะเร็ง1 และที่สำคัญคือหน้าที่ในการควบคุมฮอร์โมน และการเจริญเติบโตของเซลล์ สารอาหารประเภทหาทานได้ง่ายในผัก และผลไม้
โปรตีน เสริมสร้างกล้ามเนื้อ และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
โปรตีนเป็นกุญแจหลักของการรักษาสมดุลปริมาณน้ำตาลในเลือด และค่ากรดด่างภายในร่างกายของมนุษย์ พร้อมกับทำหน้าที่ในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ รักษาเนื้อเยื่อรวมถึงเซลล์ต่างๆ ด้วยเหตุนี้เองทำให้ผู้คนมักหาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อเพิ่มโปรตีนให้กับร่างกายอยู่เสมอๆ โปรตีนพบได้บ่อยในเนื้อสัตว์ และโปรตีนจากถั่ว
วิตามินบี บำรุงระบบประสาท และกระตุ้นการเผาผลาญไขมัน
วิตามินบี มีความสามารถในการเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญไขมัน ทำให้ร่างกายมีพลังงานมากยิ่งขึ้น และทำลายสารพิษที่เข้ามาในร่างกายอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นควันบุหรี่ หรือจะมลพิษทางอากาศ วิตามินนี้จะช่วยยับยั้งสิ่งแปลกปลอมนั้นก่อนที่จะทำลาย หรือส่งผลเสียกับร่างกาย
วิตามินบี ยังมีบทบาทในการสร้างความสมดุลทางอารมณ์ และรักษาภาวะเครียด ช่วยให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น ใครที่สนใจ หรืออยากเพิ่มวิตามินบีให้กับร่างกาย ลองรับประทานข้าวซ้อมมือ ผลไม้รสเปรี้ยว เนื้อสัตว์ หรือไข่แดง เนื่องจากในอาหารเหล่านี้จะมีวิตามินบีสูงนั่นเอง
เกลือแร่ กระตุ้นพลังงาน และส่งเสริมการดูดซึมของอาหาร / วิตามิน
ใครที่เป็นนักกีฬาคงคุ้นกับการดื่มน้ำเกลือแร่เพื่อเพิ่มพลังงาน และทำให้ร่างกายสดชื่นแบบเร่งด่วน และนี่ก็เป็นวิธีที่ถูกต้อง เพราะเกลือแร่มีคุณสมบัติในการทดแทนน้ำ และแร่ธาตุที่เสียไปได้ ช่วยควบคุมการทำงานของทั้งระบบการทำงานของหัวใจ กล้ามเนื้อ และระบบประสาท ทำให้เกลือแร่เป็นแร่ธาตุที่ไม่ควรมองข้ามโดยเด็ดขาด ซึ่งเกลือแร่นี้สามารถพบได้ใน ปลา กุ้ง และผักใบเขียว
สามารถดูรายละเอียดผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้จาก https://www.amway.co.th/สุขภาพพื้นฐาน/c/foundation
2. ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารช่วยบำรุงสมองและเสริมสร้างความจำ
อีกกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีความนิยมสูงเป็นอันดับต้นๆ คือกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อบำรุงสมอง และความจำ โดยในกลุ่มนี้ก็จะมีวิตามิน และสารอาหารเฉพาะที่จะเน้นไปเพื่อการบำรุงสมอง และชะลอการเสื่อมของสมองนั่นเอง
กรดไขมันดีเอชเอ เสริมการเจริญเติบโตของระบบประสาท
กรดไขมันดีเอชเอ เป็นกรดไขมันที่สามารถพบได้ในน้ำมันปลาที่เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอันดับต้นๆ ที่มีคุณสมบัติในการบำรุงสมอง และพัฒนาระบบความจำของประสาท กรดไขมันชนิดนี้เป็นหนึ่งในตระกูลโอเมก้า 3 ที่มีคุณสมบัติในการบำรุงโดยตรงกับสมอง และจอประสาทตา
กิงโก กับ ซิสแทนเช ลดความเสี่ยงการเป็นโรคอัลไซเมอร์2
เมื่ออายุมากขึ้นเซลล์ประสาทในสมองจะเสื่อมสภาพลงเรื่อยๆ ตามการใช้งาน จนบางครั้งอาจทำให้เกิดโรคสมองเสื่อม ซึ่งการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคสมองเสื่อมอย่างลดการดื่มแอลกอฮอล์สามารถช่วยป้องกันได้ นอกจากนี้การกินอาหารที่มีส่วนช่วยบำรุงสมองก็สามารถช่วยป้องกันการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้เช่นกัน ดังนี้
-
กิงโก หรือใบแป๊ะก๊วยเป็นพืชที่มีคุณสมบัติในการช่วยบำรุงสมองหลายอย่าง ทั้งมีส่วนช่วยยับยั้งการสร้างสารที่ทำลายเซลล์สมอง ซึ่งช่วยป้องกันความเสี่ยงต่อการเกิดโรคอัลไซเมอร์ ต่อต้านการอักเสบ และบำรุงสุขภาพหลอดเลือดให้มีความแข็งแรง นอกจากนี้ยังช่วยให้สมองทำงานได้ดีขึ้นอีกด้วย2
-
ซิสแทนเช เป็นพืชสมุนไพรที่อุมดมไปด้วยไฟโตนิวเทรียนท์ ซึ่งเป็นสารที่มีส่วนช่วยเสริมการทำงานของสมอง อีกทั้งยังสารสกัดจากซิสแทนเชยังช่วยกระตุ้นสาร BDNF (Brain Derived Neurotropic Factor) ส่งผลให้เซลล์สมองเกิดการฟื้นฟู และช่วยลดการเกิดภาวะสมองเสื่อมได้ดี3
เมล็ดพุทราจีน สมุนไพรช่วยหลับสบาย
พุทราเป็นผลไม้ที่ทั้งอร่อย รสชาติหวานกลมกล่อม แต่ในเมล็ดของพุทราจีน มีคุณประโยชน์ที่ช่วยเรื่องสมองได้ดี ด้วยกรดเบตูลินิกที่ช่วยเพิ่มระดับกลูตาไธโอนสามารถลดความกังวล และความเครียด สาเหตุหลักของอาการนอนไม่หลับ นอกจากนี้จากศึกษาพบว่าเมล็ดพุทราจีนยังมีส่วนช่วยในการผ่อนคลาย รวมถึงปรับคลื่นสมองให้มีสมาธิมากยิ่งขึ้นอีกด้วย4
คลิกอ่านเพิ่มเติมได้จาก ประโยชน์ของเมล็ดพุทราจีน
3. ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารช่วยบำรุงสุขภาพหัวใจ
หัวใจ เป็นอีกหนึ่งอวัยวะที่ต้องให้การดูแลเป็นพิเศษ เพราะโรคเกี่ยวกับหัวใจหลายๆ โรคมักจะไม่มีสัญญาณเตือน จึงกลายเป็นภัยเงียบที่แฝงอยู่ในร่างกาย เมื่อเกิดปัญหาเกี่ยวกับหัวใจจึงเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน แต่ทุกคนสามารถที่จะบำรุง และสนับสนุนระบบการทำงานของหัวใจเพื่อเลี่ยงโรคร้ายนี้ได้ตั้งแต่เนิ่นๆ
สารอัลลิซิน ลดไขมันเลวในเลือด และลดระดับไตรกลีเซอไรด์
หากพูดถึงองครักษ์พิทักษ์หัวใจ จะต้องมีชื่อของ สารอัลลิซินที่มีอยู่ในกระเทียมแน่นอน ด้วยสรรพคุณของสารดังกล่าวสามารถที่จะลดไขมันเลว และลดระดับไตรกลีเซอไรด์ ที่สองปัจจัยนี้เป็นศัตรูตรวจฉกาจของหัวใจ อีกทั้งกระเทียมนี้นี่เองที่ยังลดโอกาสในการเกิดโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือดได้อีก
วิตามินอี ป้องกันการอุดตันของเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจ
วิตามินอี นอกจากจะมีสารต้านอนุมูลอิสระ หรือฟื้นฟูผิวหลังจากไหม้แดดได้แล้ว ยังสามารถป้องกันการอุดตันของเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงไปยังหัวใจ พร้อมกับป้องกันการเกาะตัวกันของเกล็ดเลือดได้ นั้นทำให้เลือดสามารถไหลเวียนไปสูบฉีดที่หัวใจได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ถ้าต้องการบำรุงระบบการทำงานของหัวใจ วิตามินอีจัดเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดี ซึ่งวิตามินอีพบได้มากในไข่ ผัก ผลไม้ โดยเฉพาะกับพืชตระกูลถั่ว
โคเอนไซม์คิว 10 ช่วยให้กล้ามเนื้อหัวใจทำงานได้ดีขึ้น
โคเอนไซม์คิว 10 เป็นสารอาหารที่มีส่วนช่วยเรื่องการชะลอการเสื่อมของร่างกายอยู่เสมอ ทำให้ผู้คนมักคุ้นบทบาทของโคเอนไซม์คิว 10 ในส่วนของการต่อต้านความแก่กันเป็นหลัก แต่ยังมีอีกสรรพคุณที่สารอาหารนี้ทำได้ดีไม่แพ้กันคือ ช่วยทำให้ผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจมีอาการดีขึ้น และยังลดโอกาสภาวะแทรกซ้อนอีกด้วย ที่สำคัญเลยก็คือการเสริมสร้างกล้ามเนื้อหัวใจให้กลับมาทำงานเป็นปกติ และดียิ่งขึ้นกว่าเดิม
สาร EGCG ลดความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ และหลอดเลือด
สาร EGCG เป็นสารที่พบได้มากในชาเขียว มีส่วนช่วยในการเผาผลาญไขมันเสีย และยังลดโอกาสในการเป็นโรคหัวใจในอนาคตได้ อาจมีส่วนช่วยลดโอกาสในการเป็นโรคหัวใจ และหลอดเลือด
สามารถดูรายละเอียดผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้จาก https://www.amway.co.th/หัวใจ/c/heart
4. ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารช่วยบำรุงสุขภาพกระดูกและข้อต่อ
กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เน้นความแข็งแรง และบำรุงกระดูก รวมถึงข้อต่อมีความนิยมสูงขึ้นเรื่อยๆ ในหมู่ของผู้ใหญ่ที่เข้าสู่เลข 3 เนื่องจากมวลความหนาแน่นของกระดูกจะค่อยๆ เริ่มเสื่อมถอยลง ทำให้จำเป็นต้องบำรุงเพื่อป้องกัน ก่อนที่จะเกิดปัญหากับกระดูก และข้อต่อในภายหลัง
สารโพลีฟีนอล ยับยั้งการสลายคอลลาเจนในกระดูก และข้อต่อ
สารโพลีฟีนอลมีส่วนช่วยบำรุงสุขภาพของกระดูก และข้อต่อ ที่สำคัญยังช่วยในการชะลอความแก่ และช่วยยับยั้งการสลายคอลลาเจนในกระดูกได้เป็นอย่างดี ทำให้คอลลาเจนคงสภาพสมบูรณ์ให้ได้มากที่สุด ลดการอักเสบในการเสียดสีของกระดูก และข้อต่อ อีกทั้งยังระคายเคืองของกระดูกระหว่างที่มีการเคลื่อนไหวร่างกายมากๆ สารโพลีฟีนอลนี้พบได้มากในผลไม้อย่างทับทิม
แคลเซียม บำรุงกระดูกให้มีความหนาแน่นสูง
เมื่ออายุมากขึ้นกระดูกจะมีความหนาแน่นต่ำลงเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นสารอาหารที่จะเข้ามามีบทบาทอย่างมาก คงหนีไม่พ้นกับแคลเซียมที่ช่วยเพิ่มความหนาแน่นให้กับทั้งกระดูก และข้อต่อ โดยปกติแล้วร่างกายควรได้รับแคลเซียม 800-1,000 มิลลิกรัมต่อวัน สำหรับอาหารที่มีแคลเซียมสูงได้แก่ นม กุ้งแห้ง กะปิ และผักใบเขียวอย่าง คะน้า ใบยอ หรือใบชะพลู
แมกนีเซียม ป้องกันโรคกระดูกพรุน
แมกนีเซียมเป็นสารอาหารที่ช่วยควบคุม และสร้างสมดุลให้กับแคลเซียม นอกจากนี้ยังเป็นสารอาหารที่ป้องกันไม่ให้แคลเซียมไปเกาะตามอวัยวะต่างๆ ในร่างกายอีกด้วย สำหรับใครที่กังวลเรื่องโรคกระดูกพรุน แมกนีเซียมมีประโยชน์อย่างมากในการลดความเสี่ยงในการเกิดโรคนี้ สารอาหารนี้พบได้จากผักใบเขียวทุกชนิด และถั่วหลายๆ ชนิด อย่างเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ถั่วเหลือง ถั่วลิสง และวอลนัท เป็นต้น
สามารถดูรายละเอียดผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้จากttps://www.amway.co.th/กระดูกและข้อ/c/bond-and-joint
5. ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
ระบบภูมิคุ้มกันเป็นระบบที่ช่วยป้องกันอันตรายจากสิ่งแปลกปลอมภายนอก ซึ่งมีวิตามิน และสารอาหารจำนวนมากเลยทีเดียวที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
วิตามินซี ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน
วิตามินซีนี้มีสรรพคุณที่หลากหลายทั้งช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน เพิ่มความแข็งแรงของเม็ดเลือดขาว และยังช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระที่เป็นกระตุ้นให้หลายระบบการทำงานของร่างกายรวน และผิดปกติ อาหารที่มีวิตามินซีมีหลายประเภท แต่พบมาในผลไม้อย่าง ส้ม สับปะรด มะขาม และสตรอเบอร์รี่ เป็นต้น
สังกะสี เพิ่มประสิทธิภาพ และจำนวนของเม็ดเลือดขาว
สังกะสีเป็นแร่ธาตุที่มีความสำคัญกับเซลล์เม็ดเลือดขาวประเภท ที–เซลล์ (T-Cell) ซึ่งทำหน้าที่ในการตรวจตราดูแลร่างกาย และค้นหาเชื้อโรคเพื่อกำจัดทิ้ง หากใครที่มีอาการเจ็บป่วยง่าย มีความเป็นไปได้สูงที่คุณจะมีเซลล์นี้น้อยเกินไป การบำรุงร่างกายด้วยแร่ธาตุนี้จึงเป็นตัวช่วยที่ดูดีไม่น้อย อาหารที่มีแร่ธาตุชนิดนี้อยู่มากได้แก่ ผักโขม มันฝรั่ง งา ข้าวกล้อง หรือผลไม้อย่างมะม่วง หรือแอปเปิลก็มีแร่ธาตุชนิดนี้สะสมอยู่
สามารถดูรายละเอียดผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้จาก https://www.amway.co.th/บอดี้การ์ด/c/immune
เห็ดหลินจือ พืชสมุนไพรเสริมภูมิคุ้มกัน
หลายคนคงรู้จักเห็ดหลินจือเป็นอย่างดี เพราะเป็นสมุนไพรที่ใช้ในตำรับแพทย์แผนจีนมาอย่างยาวนาน ด้วยคุณสมบัติที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันแบบองค์รวมจากสารกลุ่มไทรเทอร์พีนอยด์ (Triterpenoid) และสารกลุ่มพอลิแซ็กคาไรด์ (Polysaccharide) ซึ่งมีส่วนในการต่อต้านสารอนุมูลอิสระ และการอักเสบในร่างกาย ทั้งยังไม่มีอันตรายเหมือนสารสังเคราะห์ จึงสามารถรับประทานต่อเนื่องและเสริมภูมิคุ้มกันอย่างยั่งยืนได้5
คลิกอ่านเพิ่มเติมได้จาก เห็ดหลินจือ ราชาแห่งสมุนไพรมากสรรพคุณ
6. ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารช่วยบำรุงสุขภาพระบบทางเดินอาหาร
กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อบำรุงระบบการขับถ่าย เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ช่วยให้ระบบการขับถ่ายทำงานได้ดี หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่ขับถ่ายไม่เป็นเวลา หรือขับถ่ายยาก การเพิ่มสารอาหารบางประเภท จะช่วยทำให้ระบบการขับถ่ายสามารถทำงานได้ตามปกติ และดีมากยิ่งขึ้น ของเสียที่ไม่สามารถขับถ่ายออกได้ อาจจะกลายเป็นปัญหาสุขภาพได้ในอนาคต
จุลินทรีย์โพรไบโอติก กระตุ้นระบบการย่อยอาหาร
จุลินทรีย์โพรไบโอติกเป็นจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย สร้างความสมดุลให้กับร่างกาย อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นระบบการขับถ่ายให้สามารถขับของเสียได้ดีอีกด้วย นอกจากเรื่องของระบบการขับถ่ายแล้ว จุลินทรีย์ประเภทนี้ยังส่งผลดีกับระบบทางเดินหายใจ ระบบภูมิคุ้มกัน และการพัฒนาการของร่างกาย จุลินทรีย์ไพรไบโอติกนี้มีอยู่ในนมเปรี้ยว โยเกิร์ต และกิมจิ
ใยอาหารจากอะเคเซีย เร่งกระบวนการกำจัดของเสีย
ใครที่ธาตุอ่อน มักมีอาการท้องร่วงได้ง่ายๆ การหาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีใยอาหารจากอคาเซีย ถือเป็นทางเลือกที่ค่อนข้างตอบโจทย์ เนื่องจากใยอาหารชนิดนี้จะช่วยในการแก้ท้องร่วง อาการภาวะลำไส้แปรปรวน และลดโอกาสในการเป็นมะเร็งลำไส้ได้เพิ่มเติม สารอาหารประเภทนี้สามารถที่จะหาทานได้จากผักใบสีเขียว และผลไม้แทบทุกชนิด
ฟรุคโตโอลิโกแซคคาไรด์ ปรับสมดุลระบบขับถ่ายให้มีประสิทธิภาพ
สำหรับฟรุคโตโอลิโกแซคคาไรด์จัดเป็นหนึ่งในอาหารประเภทพรีไบโอติก ช่วยในเรื่องของการปรับสมดุล และป้องกันอาการท้องผูก เป็นสารอาหารที่เพิ่มจำนวนของอุจจาระทำให้ขับถ่ายได้ง่ายมากขึ้น ลดโอกาสในการเกิดมะเร็งในลำไส้ใหญ่ได้ ใครที่ขับถ่ายลำบาก หรือขับถ่ายไม่เป็นเวลา การได้ลองหากล้วย กระเทียม หัวหอมใหญ่ หรือหน่อไม้ฝรั่งมาเป็นส่วนประกอบในอาหาร จะเป็นการเพิ่มฟรุคโตโอลิโกแซคคาไรด์ เสริมระบบการขับถ่ายให้ดี และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
สามารถดูรายละเอียดผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้จากttps://www.amway.co.th/ทางเดินอาหาร/c/gastrointestinal
7. ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารช่วยบำรุงสุขภาพผู้หญิงและด้านความงาม
ผิวสวย ใครๆ ก็อยากได้ แต่นอกจากการบำรุงด้วยสกินแคร์จากภายนอกแล้ว การทานอาหารที่ช่วยบำรุงความเปล่งปลั่งของผิวจากภายใน ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้ได้สุขภาพผิวที่แข็งแรง ไม่ระคายเคืองง่ายอีกด้วย
คอลลาเจน: ผิวใส ผมร่วงน้อย เล็บแข็งแรง
หากพูดถึงเรื่องผิวพรรณ หรือความสวยงามแล้ว คอลลาเจนจะต้องเป็นหนึ่งในชื่อที่เข้ามาในความคิดของหลายคน เนื่องจากคอลลาเจนมีชื่อเสียงอย่างมากในการเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว ถือเป็นการบำรุงจากภายในสู่ภายนอก สำหรับอาหารที่อุดมไปด้วยคอลลาเจน ส่วนมากที่เป็นนิยมได้แก่ ปลา น้ำซุปกระดูก ไข่ขาว และสาหร่ายสไปรูลิน่าที่มีกรดอะมิโนมากมาย ซึ่งกรดนี้นี่เองที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของคอลลาเจน
สฟิงโกลิพิด ผิวยืดหยุ่น มีความฉ่ำวาว
สฟิงโกลิพิด ถูกเรียกอีกชื่ออย่างแพร่หลาย สารช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว สารอาหารนี้ช่วยในเรื่องของการอุ้มน้ำในผิวให้มีความชุ่มชื้น ดูฉ่ำ พร้อมกับเสริมความยืดหยุ่นให้กับผิวพรรณอีกด้วย หากคุณเป็นคนที่มีผิวแห้งกร้าน การได้รับสฟิงโกลิพิดนี้จะช่วยกู้ผิวแห้งกร้าน และทำให้ผิวเป็นขุยน้อยลง สารอาหารนี้มีอยู่มากในข้าวสาลี
กลูโคซิลเซราไมด์ ผิวแข็งแรง และป้องกันการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ
สารอาหารที่มีความโดดเด่นในการบำรุงผิวพรรณ และมักถูกหยิบมาพูดถึงความสามารถในการสร้างเกราะ และทำให้ผิวแข็งแรง จะต้องมีชื่อของกลูโคซิลเซราไมด์ สารอาหารนี้จะลดการสูญเสียน้ำของผิว ทำให้ผิวดูชุ่มชื้น อิ่มน้ำอยู่ตลอด ยิ่งไปกว่านั้นผิวชั้นนอกจะดูใส สุขภาพดี ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้คือ สารอาหารนี้ยังส่งผลโดยตรงกับลดการสังเคราะห์ของเม็ดสี ที่จะช่วยในการลดเลือนฝ้า กระ และจุดด่างดำ
ไบโอติน เพิ่มความแข็งแรงของเล็บ และเส้นผม
ไบโอติน หรือวิตามินบี 7 เป็นสารอาหารที่มีส่วนช่วยในการสร้างเคราติน ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่มีส่วนช่วยเสริมให้รากผมแข็งแรง ผมร่วงน้อยลง อีกทั้งยังทำให้เล็บที่มีความแข็งแรง ไม่เปราะบางอีกด้วย
สามารถดูรายละเอียดผลิตภัณฑ์ได้จาก https://www.amway.co.th/ผู้หญิง/c/woman
8. ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารช่วยการเพิ่มหรือควบคุมน้ำหนัก
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหมวดนี้เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่ม และควบคุมน้ำหนัก ซึ่งสารอาหารที่แนะนำนี้จะมีวิธีรับประทานที่แตกต่างกัน คุณควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือนักโภชนาการเพื่อให้สามารถรับประทานได้อย่างเหมาะสม และปลอดภัย
โปรตีน ช่วยให้ร่างกายได้รับพลังงานอย่างเหมาะสม
ในการควบคุมอาหาร หลายคนมักมีภาพจำที่ว่าต้องอดอาหาร นี่เป็นวิธีที่ไม่แนะนำที่สุด และไม่ปลอดภัยอีกด้วยในเวลาเดียวกัน คุณควรรับประทานอาหารอย่างมีประสิทธิภาพ ลดอาหารประเภทไขมัน น้ำตาล และปริมาณอาหารที่ให้พลังงานต่ำลง เพิ่มโปรตีนเพื่อให้ร่างกายได้รับพลังงานที่เพียงพอ และที่สำคัญต้องเป็นพลังงานที่ดี ไม่สะสม อย่างไรก็ตามควรอยู่ภายใต้การแนะนำของแพทย์ หรือนักโภชนาการอย่างใกล้ชิด
สารคาเทซินจากชาเขียวลดความอยากอาหารจุบจิบระหว่างวัน
คาเทซิน (Catechins) เป็นสารที่อยู่ในกลุ่มฟลาโวนอยด์ ซึ่งพบได้มากในชาเขียว สารเหล่านี้มีหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีส่วนช่วยยับยั้งการออกซิไดซ์ของไขมันเลว (LDL) ช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน ซึ่งการมีระบบการเผาผลาญที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้ได้รับสารอาหารได้ดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดน้ำหนักได้เร็วอีกด้วย
CLA ตัวช่วยสร้างหุ่นกระชับ
CLA ย่อมาจาก Conjugated Linoleic Acid เป็นไขมันโครงสร้างพิเศษ ที่มีส่วนช่วยในการเผาผลาญพลังงานจากไขมัน อีกทั้งยังช่วยรักษามวลกลามเนื้อไว้ได้ พบได้มากในโปรตีนจากเนื้อวัว นม และไข่ ซึ่งอาหารเหล่านี้นอกจากจะมีโปรตีนที่สูงแล้ว ยังมีไขมัน และให้พลังงานที่สูงด้วย การรับประทานในปริมาณที่มากอาจทำให้ไขมันอุดตันในเส้นเลือดได้ หากเลือกสารสกัดจาก CLA ที่ได้จากน้ำมันดอกคำฝอยก็จะช่วยลดความเสี่ยงได้
ฟาเซโอลามิน สารสกัดจากถั่วขาวที่ช่วยชะลอการย่อยแป้ง
ฟาเซโอลามิน (Phaseolamin) เป็นสารที่สามารถพบได้ตามธรรมชาติ แต่พบได้มากในถั่วขาว ซึ่งการรับประทานสารสกัดจากถั่วขาวนั้นจะช่วยลดการชะลอการดูดซึมคาร์โบไฮเดรต ซึ่งช่วยให้ร่างกายลดการสะสมไขมันที่มาจากแป้งและน้ำตาล สำหรับใครที่อยู่ในช่วงควบคุมน้ำหนักก็ถือว่าเป็นตัวช่วยที่ดีเลย
สามารถดูรายละเอียดผลิตภัณฑ์ได้จาก https://www.amway.co.th/ควบคุมน้ำหนัก/c/weight
9. ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารช่วยการบำรุงสุขภาพดวงตา
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหมวดหมู่สุดท้ายเป็นการบำรุงสุขภาพดวงตา ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งอวัยวะที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีความบอบบาง หากเกิดความเสียหาย หรือเสื่อมประสิทธิภาพก็จะยากต่อการกลับมาเป็นเช่นเดิม ดังนั้นการดูแล บำรุงรักษาสุขภาพดวงตาจึงเป็นเรื่องที่ควรใส่ใจ และให้ความสำคัญ
วิตามินเอ เพิ่มความแข็งแรงของเม็ดเลือดขาว6
เม็ดเลือดขาวเป็นดั่งเซลล์ที่ทำหน้าที่การ์ดในการดูแลร่างกายของมนุษย์ เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาในร่างกาย เม็ดเลือดขาวจะพุ่งเข้าไปกำจัดทิ้ง และวิตามินเอนี้นี่เองจะช่วยทำให้เม็ดเลือดขาวแข็งแรงมากขึ้น และทำให้จัดการกับไวรัส หรือเชื้อโรคได้ดีมากกว่าเดิม วิตามินเอมีอยู่ในอาหารจำพวก ตับปลา ผักโขม ฟักข้าว และมะเขือเทศ
ลูทีนและซีแซนทีน อาหารสำคัญของดวงตา
ลูทีน (Lutein) และซีแซนทีน (Zeaxanthin) สารสีในกลุ่มแคโรทีนอยด์ เป็นสามารถพบได้ในผัก ผลไม้หลายชนิด เช่น ผักใบเขียว ดาวเรือง ไข่แดง และข้าวโพด เป็นต้น ซึ่งลูทีน และซีแซนทีนนั้นเป็นสารอาหารที่มีส่วนช่วยในการบำรุงสายตา ช่วยในการมองเห็น6
เบต้าแคโรทีน ลดความเสี่ยงภาวะจอประสาทตา
เบต้าแคโรทีน คือ ไฟโตนิวเทรียนท์ (Phytonutrients) ชนิดหนึ่งที่พบได้มากในผักและผลไม้สีเหลือง หรือสีส้ม เช่น แคร์รอต ฟักทอง มะม่วงสุก และมะละกอ เป็นต้น ซึ่งเบต้าแคโรทีนนั้นมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย โดยเฉพาะการช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะจอประสาทตาเสื่อม7
ไลโคปีน ช่วยปกป้องและบำรุงดวงตา
ไลโคปีนเป็นสารอาหารที่พบได้ในพืชที่มีสีแดงหรือสีชมพู เช่น มะเขือเทศ แตงโม และสตอร์เบอร์รี่ ซึ่งไลโคปีนนั้นมีประโยชน์กับสุขภาพดวงตา ทั้งช่วยป้องกันหรือชะลอในการเกิดต้อกระจก และลดความเสี่ยงในการเกิดจอประสาทตาเสื่อม8
สามารถดูรายละเอียดผลิตภัณฑ์ได้จาก ttps://www.amway.co.th/ดวงตา
คาดว่าผู้อ่านจะเห็นถึงความแตกต่างระหว่างอาหารเสริม และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอย่างชัดเจน และเข้าใจบทบาทสำคัญของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่คุณสามารถเลือกบำรุงได้อย่างตรงจุดตามความต้องการ อย่างไรก็ดีการเลือกรับประทานผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ควรเลือกสินค้าที่มีอย. และได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญอย่างแพทย์ หรือนักโภชนาการเพื่อให้รับประทานได้อย่างถูกต้อง และได้รับประโยชน์จากผลิตภัณฑ์สูงสุด
